เลเซอร์ขนรักแร้ด้วย YAG กับ IPL แตกต่างกันอย่างไร – YAG 100% better than IPL?

เลเซอร์ขนรักแร้ด้วย YAG กับ IPL แตกต่างกันอย่างไร

วิธีไหนช่วยกำจัดขนได้ดีที่สุด

บริการทางความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ นอกจากจะนึกถึงการรักษาสิวแล้ว น่าจะเป็นการกำจัดขนรักแร้ โดยอาจเริ่มจากการโกนขนรักแร้ การแว็กซ์ขนรักแร้ การใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดขนแบบครีม แต่ถ้าอยากให้ขนหายถาวร ผิวเรียบเนียนลูบไปไม่เจอตอขนก็น่าจะต้องเลือกวิธี เลเซอร์ขนรักแร้ ให้เป็นตัวช่วยกำจัดขนแล้วล่ะค่ะ

ความแตกต่างระหว่างการกำจัดขนรักแร้ด้วย Yag Laser กับ IPL Laser

Yag Laser (Yttrium Aluminum Garnet) เป็นเลเซอร์ขนรักแร้ ที่มีคุณสมบัติในการกำจัดขนอย่างเฉพาะเจาะจง ด้วยพลังงานเลเซอร์สามารถลงลึกถึงรากขน โดยใช้กระบวนการที่เส้นขนและเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในเส้นขนดูดซับพลังงานของ Yag Laser จากนั้นจึงเปลี่ยนให้เป็นพลังงานความร้อนลงลึกจากเส้นขนที่ขึ้นมาบริเวณผิวหนังด้านบนถ่ายเทไปสู่รากขน ทำลายเซลล์รากขนให้ตายลงโดยไม่ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณข้างเคียงเกิดความบอบช้ำ จึงสามารถกำจัดขนรักแร้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการกลับมาของเส้นขนใหม่ได้ดีที่สุด ซึ่งการส่งพลังงานแบบเฉพาะเจาะจงนี้ทำให้การกำจัดขนมีประสิทธิภาพสูง พลังงานลงลึกถึงรากขนได้ แต่ไม่อันตรายต่อผิวชั้นบน ไม่ทำให้ผิวไหม้หรือผิวเบิร์น และทำเพียง 6-12 ครั้งอย่างต่อเนื่องแล้วแต่สภาพผิวและเส้นขนของแต่ละบุคคล ก็สามารถให้ผลลัพธ์ผิวเรียบเนียนปราศจากเส้นขนได้นานอย่างน้อย 1-2 ปีหรืออาจนานกว่านั้นได้เลยทีเดียว โดยสำหรับบางคนเส้นขนที่กลับมาขึ้นใหม่ก็เส้นลง บางลงไม่หนาแน่นเท่ากับตอนก่อนเลเซอร์ขนรักแร้ด้วย Yag Laser อีกด้วย

ส่วนข้อแนะนำสำหรับคนที่จะกำจัดขนรักแร้ด้วย Yag Laser ก็คือไม่ควรโกนหรือแว็กซ์ขนมาก่อนทำการเลเซอร์ขนรักแร้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากพลังงานเลเซอร์จำเป็นที่จะต้องอาศัยเส้นขนเป็นตัวนำพาความร้อนลงลึกสู่เซลล์รากขนนั่นเอง

IPL (Intensive Pulse Light) เทคโนโลยีเลเซอร์พลังแสงความเข้มข้นสูง กระจายพลังงานความร้อนเป็นวงกว้างครอบคลุมทั่วพื้นที่ผิวอย่างไม่เฉพาะเจาะจง ซึ่งมีความสามารถในการลงลึกได้ในระดับผิวชั้น Epidermis หรือชั้นหนังกำพร้า ไปจนถึงด้านบนของชั้นผิวหนังแท้ หรือชั้น Dermis เท่านั้น ซึ่งลงลึกไม่ถึงเซลล์รากขน จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ดูแลผิว ปรับผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระให้จางลงได้ แต่เมื่อถูกนำมาใช้เพื่อเป็นเลเซอร์ขนรักแร้ ด้วยคุณสมบัติของพลังงานความร้อนที่ส่งลงใต้ผิวมีผลในการชะลอการเจริญเติบโตของเส้นขนได้ ช่วยให้เส้นขนขึ้นช้าลง และอาจทำให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่บางลงเมื่อทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีความสามารถในการกำจัดขนรักแร้ได้อย่างถาวร หรืออาจบอกได้ว่าไม่ได้มีความสามารถในการกำจัดขนด้วยซ้ำ ผลลัพธ์ของเลเซอร์ IPL สำหรับการกำจัดขนรักแร้จึงเท่ากับการทำให้เส้นขนเจริญเติบโตได้ช้าลงและอ่อนแอลง เมื่อหยุดทำเพียง 1-2 เดือนเส้นขนก็จะกลับมาขึ้นใหม่ตามปกติ ซึ่งนอกจากจะต้องทำเป็นจำนวนหลายครั้งกว่าการใช้ Yag Laser จึงจะเริ่มเห็นผลว่าขนบางลง ขนเส้นเล็กลงแล้ว พลังงานเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติในการจับเข้ากับสีเข้มทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวเข้มหรือคล้ำ เพราะอาจทำให้ผิวด้านบนเกิดอาการไหม้เบิร์นได้

แต่เหตุผลที่คลินิกเสริมความงามบางแห่งเลือกนำมาใช้ในโปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้เนื่องจากมีต้นทุนที่ถูกกว่า ทำให้สามารถเรียกความสนใจจากลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้จากการขายคอร์สในราคาไม่แพง

วงจรเส้นขน(Hair Cycle) แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

ระยะ Anagen (ระยะเติบโต) เป็นระยะของเส้นขนที่งอกเจริญเติบโตโผล่ออกมาพ้นผิวหนัง และมีความแข็งแรงเต็มที่

ระยะ Catagen (ระยะเสื่อมสภาพ) ระยะที่เส้นขนชะลอและหยุดการเจริญเติบโต โดยเส้นขนจะค่อยๆ หลุดออกจากรากขน

ระยะ Telogen (ระยะพักตัว) เมื่อเส้นขนเดิมหลุดร่วงออกจากรากขน ในระยะนี้จะมีขนอ่อนค่อยๆเจริญเติบโตขึ้นมาแทนที่ ก่อนจะผลักเส้นขนเก่าให้หลุดร่วงออกจากผิวหนัง

ซึ่งด้วยกระบวนการของ Yag Laser ที่เป็นการนำพลังงานความร้อนลงสู่รากขนอย่างเฉพาะเจาะจง โดยผ่านตัวกลางอย่างเส้นขนระยะที่เติบโตเต็มที่ ซึ่งจะเห็นเป็นเส้นขนงอกออกมาบริเวณด้านบนผิวในขณะที่เส้นขนยังคนเกาะแน่นอยู่กับเซลล์รากขน ไม่แยกตัวออกมาเหมือนกับเส้นขนในระยะเสื่อมสภาพ หรือเส้นขนที่ยังอยู่ใต้ผิวในระยะพักตัว จึงจะทำให้เส้นขนสามารถนำส่งพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ขนรักแร้ลงสู่รากขนได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยทำลายเซลล์รากขน ลดการเกิดและการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่ได้อย่างยาวนาน

แต่ในเมื่อเส้นขนทุกเส้นไม่ได้มีระยะการเจริญเติบโตเท่ากันเสมอไป การใช้เลเซอร์ขนรักแร้เพื่อกำจัดขนรักแร้แต่ละครั้ง เส้นขนที่อยู่ในระยะเสื่อมสภาพ กับระยะพักตัว ไม่มีความสามารถในการนำพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ส่งตรงลงลึกถึงเซลล์รากขน จึงทำให้เส้นขนในจุดนั้นยังคงสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ ซึ่งต้องรอจนกว่าเส้นขนในจุดนั้นจะเข้าสู่ระยะเติบโต จึงจะเป็นการกำจัดขนรักแร้ด้วย Yag Laser ที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทางคลินิกจึงแนะนำให้กลับมาเลเซอร์ขนรักแร้ ทุกๆ 30 วันเพื่อให้เวลาเส้นขนได้มีการพัฒนาตัวเองเข้าสู่ระยะเติบโตเสียก่อน และเลเซอร์ขนรักแร้ติดต่อกันเป็นจำนวน 6-12 ครั้ง เพื่อให้เส้นขนทุกเส้นทั่วบริเวณได้รับเอาพลังงานจากเลเซอร์ลงลึกถึงรากขน และช่วยให้ผิวเรียบเนียน เส้นขนไม่กลับมาอีกได้ยาวนาน โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนของเส้นขนและความหนาของเส้นขนของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน จึงควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินก่อนการเลเซอร์ขนรักแร้ เพื่อการกำจัดขนรักแร้ที่ให้ผลลัพธ์สูงสุด

ที่ THE KLINIQUE ใช้เลเซอร์ประเภทใดในการกำจัดขนรักแร้ แน่นอนว่าเลเซอร์ขนรักแร้ที่เราเลือกใช้ต้องเป็นนวัตกรรมที่ดีที่สุดในการกำจัดขนรักแร้และการกำจัดขนทุกบริเวณอย่างอ่อนโยนและปลอดภัย

NEW Yag Laser เป็นเลเซอร์กำจัดขน เทคโนโลยี Long Pulse Nd:YAG Laser ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US FDA หรือองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ประสิทธิภาพทำลายลึกถึงรากขน แต่อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ช่วยให้ผิวเนียนเรียบ ไร้ขนส่วนเกินเห็นผลลัพท์ยาวนาน พร้อมเสริมให้ผลลัพธ์การเลเซอร์ขนรักแร้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยการช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใส และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้นได้อีกด้วย

THE KLINIQUE ขอเชิญคุณมาร่วมพิสูจน์ขั้นสุดของการเลเซอร์ขนรักแร้ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงแต่อ่อนโยนที่สุดในปัจจุบัน ให้ประสิทธิภาพเหนือชั้นในการกำจัดขนรักแร้

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา