การมีผิวพรรณที่สวยงาม เปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่เรื่องของการทาครีมบำรุงผิวภายนอกเพียงอย่างเดียวนะคะ แต่การดูแลผิวจากภายในก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
RADIESSE® นวัตกรรมความงามที่ช่วยให้ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอกอย่างยั่งยืน เปลี่ยนผิวให้อ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่การเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู แต่ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้นจากภายใน
ทำความรู้จัก RADIESSE® คืออะไร?
RADIESSE คือ นวัตกรรมเติมเต็มผิวที่ผสานศาสตร์แห่งธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัย หัวใจสำคัญของ RADIESSE คือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite, CaHA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในกระดูกและฟันของเรา โดย CaHA ใน RADIESSE มีลักษณะเป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก (ไมโครสเฟียร์) และมีความบริสุทธิ์สูง เป็นสารที่ร่างกายยอมรับได้ดี ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง มีประวัติการใช้งานทางการแพทย์มายาวนาน จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย และเมื่อเวลาผ่านไป CaHA จะสลายตัวไปตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และนอกจาก CaHA แล้ว RADIESSE ยังมีเจล Sodium Carboxymethylcellulose ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำพา CaHA เข้าสู่ชั้นผิวหนัง ทำให้การกระจายตัวของ CaHA เป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
RADIESSE® ปลอดภัย ไว้ใจได้ ผ่านการรับรองระดับโลก
CaHA ในรูปแบบไมโครสเฟียร์นี้ผ่านการวิจัยและทดสอบอย่างละเอียดมาแล้วกว่า 25 ปี มีงานวิจัยรองรับมากมาย และได้รับการรับรองจากหน่วยงานอาหารและยาชั้นนำของโลก ทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทำให้มั่นใจได้ว่า CaHA นั้นเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ และยังสลายตัวไปเองตามธรรมชาติได้อีกด้วย เปรียบเสมือนการเติมเต็มที่ร่างกายยอมรับและปรับตัวได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของ RADIESSE®
- ปลอดภัยสูง: CaHA เป็นสารที่ร่างกายเรารู้จักดีอยู่แล้ว และได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก
- ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: CaHA จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเต่งตึงได้นาน
- เห็นผลรวดเร็ว: ผลลัพธ์ในการเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวจะเห็นได้ทันทีหลังการฉีด
- หลากหลายประโยชน์: ใช้ได้ทั้งการเติมเต็มร่องลึก ยกกระชับใบหน้า และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์
- เป็นธรรมชาติ: ผิวจะดูอิ่มฟูและเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งหรือเทียม
กลไกการทำงานของ RADIESSE®
เมื่อฉีด RADIESSE เข้าสู่ผิว ก็จะเข้าไปทำงานโดยตรงกับ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินที่สำคัญต่อความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารสำคัญ 5 ชนิดที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีมากขึ้น ดังนี้
- เพิ่มคอลลาเจน: RADIESSE ช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ถึง 150% และคอลลาเจนชนิดที่ 3 ถึง 130% ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและเรียบเนียนขึ้น
- เพิ่มอีลาสติน: RADIESSE ช่วยเพิ่มการสร้างอีลาสตินถึง 260% ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอย
- เพิ่มโปรตีโกลไคน: RADIESSE ช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีโกลไคน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอิ่มน้ำ
- กระตุ้นการสร้างหลอดเลือด: RADIESSE ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ ทำให้ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนมากขึ้น ส่งผลให้ผิวดูสดใสและมีสุขภาพดี
ผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์ด้วย RADIESSE®
- ริ้วรอยลดเลือน: คอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ผิวกระชับ: โครงสร้างผิวที่แข็งแรงขึ้นจากคอลลาเจนและอีลาสติน จะช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับ
- ผิวอิ่มน้ำ: RADIESSE ช่วยเพิ่มปริมาณสารอาหารสำคัญให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและดูมีสุขภาพดี
- ผิวเรียบเนียน: ผิวที่ได้รับการฟื้นฟูจะเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง
- ย้อนวัยให้ผิว: ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น เปล่งปลั่ง และมีชีวิตชีวา
ฉีด RADIESSE® กี่ครั้งถึงจะพอ?
โดยทั่วไปแล้ว การฉีด RADIESSE เพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นผลได้ชัดเจนแล้วค่ะ แต่การฉีด RADIESSE เป็นการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาที่เห็นผลได้ดังนี้
- เห็นผลทันที: หลังจากฉีด Radiesse ไปแล้ว ผิวจะดูอิ่มฟูขึ้น ร่องลึกตื้นขึ้นทันที เนื่องจากเนื้อเจลของ Radiesse เข้าไปเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวเหมือนฟิลเลอร์ทั่วไป
- เห็นผลระยะสั้น (1-4 สัปดาห์): CaHA (Calcium Hydroxylapatite) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของ Radiesse จะเริ่มเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนขึ้นมา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น
- เห็นผลระยะยาว (6-24 เดือน): คอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่จะค่อยๆ แทนที่เนื้อเจลของ Radiesse ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 18-24 เดือน ผิวจะดูอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดี และแข็งแรงขึ้น
เปรียบเทียบ RADIESSE® กับฟิลเลอร์ทั่วไป อะไรที่แตกต่าง?
1. ส่วนประกอบหลักที่แตกต่าง
RADIESSE: ใช้แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟิลเลอร์ทั่วไป: ส่วนใหญ่ใช้กรดไฮยาลูโรนิก (HA) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
2. กลไกการทำงานที่แตกต่าง
RADIESSE: เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว CaHA จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวดูเต่งตึง อิ่มฟู และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ทั่วไป: HA จะทำหน้าที่เติมเต็มร่องลึกและเพิ่มปริมาณให้กับผิวโดยตรง แต่ไม่ได้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
3. ผลลัพธ์ที่ได้
RADIESSE: ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป โดยสามารถอยู่ได้นาน 1 ปีขึ้นไป เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใหม่จะช่วยคงรูปให้ผิวอยู่ได้นาน
ฟิลเลอร์ทั่วไป: ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของ HA และบริเวณที่ฉีด
4. เนื้อสัมผัสและการใช้งาน
RADIESSE: มีเนื้อสัมผัสที่หนาและแข็งกว่า HA จึงเหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและสร้างโครงสร้างให้กับใบหน้าได้ดีกว่า
ฟิลเลอร์ทั่วไป: มีเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ตั้งแต่เหลวจนถึงข้น สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบริเวณ
RADIESSE® เหมาะกับการฉีดบริเวณใดบ้าง?
- ใบหน้า : ลดเลือนริ้วรอยทั่วใบหน้า เติมเต็มร่องลึก ให้ใบหน้าดูอิ่มฟู
- หลุมสิว: ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ผิวหลังฝ่ามือ: ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- รอยคอเหี่ยว: ลดเลือนรอยคอ ทำให้คอดูเรียบเนียน
แต่ละบุคคลมีโครงหน้าสภาพผิวที่แตกต่างกัน การเลือกตำแหน่งฉีด RADIESSE จึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนค่ะ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่ตรงกับความต้องการนะคะ การเลือกคลินิกที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เปรียบเสมือนการเลือกช่างฝีมือมาแกะสลักผลงานศิลปะบนใบหน้าของเราค่ะ ก่อนตัดสินใจเลือกคลินิก ลองพิจารณาปัจจัยสำคัญเหล่านี้ดูค่ะ
- คลินิกมาตรฐาน: ควรเป็นคลินิกที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคลินิกมีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: แพทย์ที่ทำการฉีดควรมีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ RADIESSE เพราะเทคนิคการฉีดแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันไป แพทย์ที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์จะสามารถประเมินและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
- คลินิกครบวงจร: คลินิกที่ดีควรมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงมีบริการที่หลากหลาย เพื่อให้แพทย์สามารถเลือกวิธีการรักษาที่ตรงกับปัญหาของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ
- การดูแลหลังการรักษา: คลินิกควรมีการนัดติดตามผลและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยั่งยืน
- ผลิตภัณฑ์แท้: ควรเลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ RADIESSE ของแท้และได้รับการรับรองจาก อย. เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
การฉีด RADIESSE® เป็นการรักษาที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัยที่สุดค่ะ
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique