รู้เท่าทันปัญหาปัสสาวะเล็ด ไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับคุณผู้หญิง

ปัสสาวะเล็ด อาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้หญิงมากกว่าที่คิด หลายคนเข้าใจว่าอาการนี้เกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงอายุ ทว่าความจริงแล้วสามารถพบได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน การมีเพศสัมพันธ์ หรือกิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในช่องท้อง อาการปัสสาวะเล็ดทำให้การควบคุมปัสสาวะลดลง ต้องเสียเวลาเข้าห้องน้ำบ่อยๆ จนส่งผลรบกวนการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน THE KLINIQUE ชวนสาวๆ ทำความเข้าใจ สาเหตุและสัญญาณเตือนของอาการปัสสาวะเล็ด พร้อมแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกๆ กิจกรรมให้คุณผู้หญิงได้อีกครั้ง

ปัญหาปัสสาวะเล็ด คืออะไร? มีกี่ชนิด

ปัสสาวะเล็ด (Urinary Incontinence) คือ ภาวะที่ไม่สามารถควบคุมการไหลของปัสสาวะได้ตามปกติ แบ่งออกเป็น 4 ชนิดหลักๆ ได้แก่

  1. ปัสสาวะเล็ดจากแรงดันในช่องท้อง (Stress Incontinence) เป็นภาวะที่ปัสสาวะเล็ดออกมาโดยไม่ตั้งใจเมื่อแรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น เช่น การไอ จาม หัวเราะ ยกของหนัก หรือออกกำลังกาย สาเหตุหลักเกิดจากกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและเนื้อเยื่อรอบท่อปัสสาวะอ่อนแรง ทำให้ท่อปัสสาวะปิดไม่สนิทเมื่อมีแรงดันเพิ่มขึ้น
  2. ปัสสาวะเล็ดแบบกะทันหัน (Urge Incontinence) เป็นภาวะที่รู้สึกปวดปัสสาวะรุนแรงและฉับพลันจนกลั้นไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ดก่อนเข้าห้องน้ำ ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหดเกร็งผิดปกติหรือไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินไป
  3. ปัสสาวะเล็ดแบบผสม (Mixed Incontinence) เป็นภาวะที่มีอาการของปัสสาวะเล็ดจากแรงดันในช่องท้อง (Stress Incontinence) และปัสสาวะเล็ดแบบกะทันหัน (Urge Incontinence) ร่วมกัน อาจพบอาการปัสสาวะเล็ดเมื่อไอ จาม หรือออกแรง พร้อมกับอาการปวดปัสสาวะฉับพลันจนกลั้นไม่อยู่ในเวลาเดียวกัน
  4. ปัสสาวะเล็ดจากการคั่งค้าง (Overflow Incontinence) คือภาวะที่กระเพาะปัสสาวะไม่สามารถขับปัสสาวะออกได้หมด ส่งผลให้มีปัสสาวะตกค้างและไหลซึมออกโดยไม่รู้ตัว มักเกิดจากกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะทำงานได้น้อยลง หรือมีการอุดกั้นภายในทางเดินปัสสาวะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด

  • ความอ่อนแอของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เกิดจากการตั้งครรภ์ คลอดบุตร หรือวัยหมดประจำเดือน รวมถึงกลุ่มที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อยๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในวัยหมดประจำเดือนที่มีการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
  • ภาวะที่เพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น โรคอ้วน การยกของหนัก การไอหรือจามเรื้อรัง รวมถึงการกลั้นปัสสาวะเป็นประจำ
  • โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
  • พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ การดื่มน้ำมากเกินไป การดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์เป็นประจำ รวมถึงการใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อการควบคุมปัสสาวะ

อาการที่บ่งบอกว่ามีปัญหาปัสสาวะเล็ด

  • ปัสสาวะเล็ดเมื่อไอ จาม หรือออกกำลังกาย
  • รู้สึกปวดปัสสาวะกะทันหันจนต้องรีบเข้าห้องน้ำ
  • มีปัสสาวะเล็ด แม้เพิ่งเข้าห้องน้ำมาไม่นาน
  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติในช่วงกลางคืน
  • มีความรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้

ปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดไม่กระชับ รักษาได้อย่างไร?

อาการปัสสาวะเล็ดและช่องคลอดหลวมเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่อ่อนแอลง ซึ่งสามารถฟื้นฟูและรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา เช่น

  • การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel Exercise) เป็นวิธีการฝึกขมิบอย่างสม่ำเสมอเพื่อการกระชับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ช่วยลดอาการปัสสาวะเล็ด และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อภายในช่องคลอด อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความสม่ำเสมอในการฝึกทำ Kegel
  • การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ด้วยการควบคุมน้ำหนักตัว ลดปริมาณคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือการออกกำลังกายหนักๆ
  • การทำกายภาพบำบัด ใช้วิธีกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยคลื่นไฟฟ้าหรือการบริหารเฉพาะทางเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของอุ้งเชิงกราน
  • การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ปัจจุบันมีนวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้แข็งแรงมากขึ้น เช่น EMSELLA CORE, Mini Repair 360 ซึ่งใช้คลื่นพลังงานกระตุ้นกล้ามเนื้อให้กลับมาแข็งแรง ลดอาการปัสสาวะเล็ดและเพิ่มความกระชับภายในช่องคลอดได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น

ปัสสาวะเล็ด รักษาให้ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว ด้วยโปรแกรม EMSELLA CORE และโปรแกรม Mini Repair 360 ที่ THE KLINIQUE

จัดการปัญหาปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนให้ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว ด้วย 2 โปรแกรมยกกระชับช่องคลอดที่ THE KLINIQUE

  • โปรแกรม EMSELLA CORE นวัตกรรมที่ช่วยฟื้นฟูและกระชับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน พร้อมเสริมสมรรถภาพทางเพศให้แข็งแรงขึ้น ด้วยการใช้พลังงาน HIFEM (High-Intensity Focused Electromagnetic) ที่มีความจำเพาะเจาะจงส่งตรงไปยังบริเวณอุ้งเชิงกรานเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งขึ้น เปรียบเสมือนการทำ Kegel exercises หรือการบริหารอุ้งเชิงกรานได้มากถึง 11,200 ครั้งภายใน 28 นาที
  • โปรแกรม Mini Repair 360 เทคโนโลยีขั้นกว่าของการทำรีแพร์น้องสาวโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการใช้คลื่นวิทยุ (RF) และคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound) ร่วมกับ 360° Volumetric Heating Technology สามารถปล่อยพลังงาน RF ได้แบบ 360 องศา กระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึงทุกมุม ช่วยฟื้นฟูและกระชับเนื้อเยื่อภายในช่องคลอด แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง ขาดความยืดหยุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการปัสสาวะเล็ด..ไม่ใช่เรื่องเล็ก จัดการให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยด้วยโปรแกรมยกกระชับสมัยใหม่ ด้วยโปรแกรม EMSELLA CORE และ Mini Repair 360 นวัตกรรมทางเลือกเพื่อการรักษาอาการปัสสาวะเล็ดได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกู้คืนความมั่นใจให้สาวๆ ได้อีกครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองคิวเข้ารับโปรแกรมยกกระชับกับแพทย์หญิงได้แล้ววันนี้ที่ THE KLINIQUE

เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา