ในปัจจุบัน ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under-Eye Fillers) เป็นทางเลือกที่หลายคนหันมาใช้ เพื่อให้ดวงตาดูสดใส และคืนความอ่อนเยาว์ บนใบหน้าโดยรวม หากคุณมีปัญหาต่าง ๆ เช่น รอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย หรือริ้วรอย ที่เกิดจากอายุมากขึ้น การฉีด Filler ใต้ตา นับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย และสะดวกสบาย เพราะไม่ต้องทำการผ่าตัด และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน อีกทั้งยังสามารถสัมผัสผลลัพธ์ได้หลังฉีด ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจขึ้น กับดวงตาที่ดูสดใสและเปล่งปลั่งอีกครั้ง เหมือนเสกมนต์สะกด ให้ดวงตาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาทันที
การฉีด Filler ใต้ตา จะใช้สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมเต็มบริเวณที่มีปัญหา เช่น ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ และเบ้าตาลึก โดยที่ ฟิลเลอร์ที่เป็นเนื้อเจลนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดร่องลึก และริ้วรอย ยังช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน และมีชีวิตชีวาขึ้นอีกด้วย
ในบทความนี้ จะพาไปเจาะลึกถึง ปัญหาใต้ตา ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย พร้อมแชร์แนวทางการแก้ไข เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ปัญหาใต้ตา ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ และบุคลิกภาพของคุณ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ปัญหาใต้ตาดำ คล้ำ หมองโทรมเกิดจากอะไร ?
ปัญหาร่องใต้ตา เกิดจากการยุบตัวของส่วน Tear Trough ที่อยู่ใกล้ร่องน้ำตา และ Hollow Under Eye บริเวณเบ้าตา เมื่ออายุมากขึ้น พื้นที่เหล่านี้อาจยุบลงทั้งสองจุด หรือจุดใดจุดหนึ่ง หากต้องการแก้ไขด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะต้องประเมินปัญหาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การรักษาได้ตรงจุด
สาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ หรือมีถุงใต้ตา มักเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ คนที่นอนน้อยหรือนอนไม่พอ มักจะประสบปัญหานี้บ่อย โดยการแก้ไขที่ดี คือการปรับพฤติกรรมการนอน ควรพักผ่อนให้พอเพียง 8-10 ชั่วโมง ก็จะช่วยลดอาการบวมและทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
ปัญหาใต้ตายังเกิดขึ้นได้ในคนอายุน้อย เนื่องจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น พันธุกรรม ภูมิแพ้ หรือการเจริญเติบโตของกระดูกบริเวณใต้ตาไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดถุงใต้ตาและร่องใต้ตา นอกจากนี้ การใช้สายตาอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาหย่อนยาน และเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ เมื่ออายุมากขึ้น เกิดภาวะกระดูกใบหน้าทรุดตัว ก็อาจจะทำให้ร่องใต้ตาลึก ดูโทรมและไม่สดใส
Filler ใต้ตา คืออะไร ?
Filler ใต้ตา เป็นการฉีดสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอย หรือผิวหย่อนคล้อย เมื่อเราอายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและมีร่องลึก การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยเติมเต็มร่องลึก แก้ไขใต้ตาคล้ำ และลดถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้ากลับมาดูสดใสและมีชีวิตชีวา โดย Hyaluronic Acid เป็นสารที่มีอยู่ในผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว ทำให้มั่นใจได้ ว่าการฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ การเติมร่องแก้มได้รับความนิยม เพราะหลายคนกังวลว่าร่องแก้มทำให้ใบหน้าดูแก่ แต่การเติมร่องแก้มเพียงอย่างเดียวโดยไม่เติมใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูแข็งและขาดความสมดุล ร่องแก้มดูเต็มแต่ใต้ตาลึก ทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นตำแหน่งสำคัญที่ช่วยเสริมความสมดุลของใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เพราะใต้ตาเป็นจุดแรก ที่เกิดการยุบตัว และควรได้รับการแก้ไขก่อนเพื่อความสมดุลของใบหน้าทั้งหมด
หากคุณมีปัญหาดังกล่าว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกที่สามารถช่วยแก้ไขได้ โดยการฉีดในตำแหน่งที่แตกต่างกันจะมีผลต่อปัญหาที่แตกต่างกันด้วย เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ผิวหนังชั้นตื้น จะช่วยให้ใต้ตาสว่างขึ้น ลดความหมองคล้ำ และทำให้ผิวใต้ตาดูเต่งตึงขึ้น, การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ผิวหนังชั้นลึก จะสามารถปรับไขมันในเบ้าตาที่เคลื่อนตัว ปรับถุงใต้ตาให้เรียบเนียน และเติมร่องลึกใต้ตาให้ดูเต็มขึ้น และ การฉีดฟิลเลอร์บริเวณเหนือดวงตาและร่องน้ำตา จะช่วยแก้ปัญหาตาโหลที่บริเวณร่องน้ำตาและเหนือดวงตา โดยการฉีดเสริม จากบริเวณกระดูกเบ้าตา
Filler ใต้ตา เหมาะกับใคร ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีริ้วรอยใต้ตา หรือต้องการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาและขอบตาที่ดำ รวมถึงคนที่มีตาลึกหรือตาโหล
- คนที่ไม่ต้องการเจ็บตัว หรือไม่ต้องการทำการผ่าตัด
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที และไม่ต้องการพักฟื้นนาน
- ผู้ที่ประสบปัญหาผิวใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อ
- ผู้ที่มีปัญหาใต้ตา จากสาเหตุทางพันธุกรรม
การเตรียมตัว ก่อนฉีด Filler ใต้ตา
การเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเริ่มประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หยุดใช้ยาบางชนิด และ งดทานอาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดรอยฟกช้ำ เช่น Ibuprofen, ยาในกลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน, แปะก๊วย, โสม, น้ำมันปลา และ วิตามินอี
นอกจากนี้ อย่าลืมแจ้งประวัติสุขภาพของคุณกับแพทย์อย่างละเอียดก่อนเริ่มทำหัตถการ และหากคุณกำลังตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เนื่องจากยังไม่มีการวิจัยเพียงพอ เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจมีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ อีกทั้งฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ อาจทำให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติ และทำให้เกิดอาการบวมผิดปกติได้
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ปรึกษาแพทย์ : เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับแพทย์เพื่อประเมินปัญหาที่ต้องการแก้ไข และเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของคุณ
- ทำความสะอาด : ทำความสะอาดบริเวณใต้ตาในจุดที่จะทำการฉีดก่อนทุกครั้ง
- แปะยาชา : เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์มีความสบายมากขึ้น แพทย์จะทำการแปะยาชาในบริเวณที่ต้องการ
- ฉีดฟิลเลอร์ : แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
- ท่าฉีดที่เหมาะสม : ผู้รับบริการจะอยู่ในท่านั่งหรือนอนเอียง โดยให้ระดับหัวสูงกว่าหัวใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดออกมากขึ้นในบริเวณที่ฉีด
การดูแลตัวเอง หลังฉีด Filler ใต้ตา
- เพื่อให้ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานนาน ควรดื่มน้ำให้มาก
- ควรงดทำเลเซอร์ที่ใบหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
- ในช่วง 3 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวใบหน้ามากเกินไป
- ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนในบริเวณที่ฉีด
- การประคบน้ำเย็นที่ใต้ตาช่วยบรรเทาอาการบวมได้
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ งดสูบบุหรี่
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาปลอดภัยไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เนื่องจากฟิลเลอร์ชนิดนี้ เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว
อย่างไรก็ตาม ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ เนื่องจากบริเวณนี้มีความละเอียดอ่อน หากฉีดไม่ถูกต้อง อาจมีความเสี่ยง ที่จะเกิดอาการอุดตันในเส้นเลือดใต้ตา ซึ่งอาจรุนแรงถึงขนาดที่นำไปสู่ภาวะตาบอดได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ต้องทำอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในบางกรณีอาจเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนบวม ซึ่งทำให้ผิวดูไม่เป็นธรรมชาติ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการนี้ อาจมาจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด การขาดประสบการณ์ของแพทย์ หรือการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ได้เช่นกัน
สำหรับวิธีการแก้ไขปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดขึ้น หากฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ฉีดสลายฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนได้ แต่ถ้าหากมีอาการอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม
การดูแลและป้องกันการเกิดฟิลเลอร์เป็นก้อน หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัย และรักษาที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรมีการประเมินปัญหาอย่างละเอียดก่อนทำการฉีด เพื่อให้สามารถเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ควรให้แพทย์ที่มีความชำนาญทำการประเมินปัญหาคล้ำใต้ตาอย่างละเอียด เพื่อกำหนดปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมก่อนทำการฉีด
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางเท่านั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจส่งผลร้ายแรง
- ฟิลเลอร์ใต้ตาจะค่อย ๆ สลายไปตามธรรมชาติ โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ถึง 18 เดือน ซึ่งอาจต้องกลับมาทำซ้ำตามความจำเป็น
- อาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นหลังการฉีด เช่น บวม แดง คัน หรือเขียวช้ำ ซึ่งจะเป็นอาการชั่วคราวและสามารถหายไปได้ภายในไม่กี่วัน
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ การฉีด Filler ใต้ตา
Q : หากผิวหนังรอบดวงตา หย่อนคล้อยตามอายุ การแก้ไขให้กลับมาปกติ ทำได้หรือไม่ ?
A : เมื่อผิวหนังรอบดวงตาหย่อนคล้อยลงจากอายุที่มากขึ้น การแก้ไขให้กลับมาดูปกติอาจทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีในระยะสั้น เพื่อช่วยเติมเต็มและฟื้นฟูความกระชับของผิวในบริเวณนี้
Q : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายหรือไม่ ?
A : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบประกอบการถูกต้อง และใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาเช่นการอักเสบหรือความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดจากฟิลเลอร์ปลอม
Q : ทำไมต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ ?
A : ฟิลเลอร์แท้สามารถสลายหมดโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นหลังการฉีด
Q : เริ่มฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้กี่ CC ?
A : ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามปัญหาของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะประเมินและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมให้ โดยทั่วไปแล้ว หากมีปัญหาตาใต้คล้ำหรือถุงใต้ตา จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1–2 CC ซึ่งเพียงพอสำหรับการแก้ไขปัญหานี้
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะเห็นผลทันทีหรือไม่ ? ใช้เวลากี่วันถึงจะเห็นผล ?
A : หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผู้รับบริการอาจมีอาการบวมที่บริเวณที่ฉีด ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายใน 2–3 วัน และผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะเริ่มเห็นได้ภายใน 2–3 สัปดาห์
Q : ฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถอยู่ได้อย่างถาวรหรือไม่ ?
A : ความถาวรของฟิลเลอร์ใต้ตาขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ถึง 18 เดือน โดยการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว เช่น การอยู่ในที่ร้อน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ก็มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิลเลอร์ได้
Q : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ?
A : ก่อนการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทายาชาที่บริเวณที่จะทำการฉีด เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด โดยทั่วไปแล้วผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และกระบวนการฉีดนั้นถือว่าใช้เวลาไม่นาน
Q : ทำไมฟิลเลอร์ใต้ตาถึงเป็นก้อน และจะแก้ไขได้อย่างไร?
A : การที่ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน อาจเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม หรือใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง หากเป็นฟิลเลอร์แท้ สามารถใช้ไฮยาลูโรนิเดสฉีดสลายได้ แต่หากเกิดอาการอักเสบควรพบแพทย์ทันที เพื่อรักษาอย่างถูกวิธี
Q : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดได้จริงหรือไม่ ?
A : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสทำให้เกิดตาบอดได้จริง แต่เหตุการณ์นี้ถือว่าหายากมาก หากเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาบอด มักจะเกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม การฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความรู้ หรือการฉีดฟิลเลอร์ไปอุดตันในหลอดเลือด หากได้รับการฉีดฟิลเลอร์แท้จากแพทย์ที่มีประสบการณ์ โอกาสเกิดปัญหานี้แทบจะไม่มีเลย
สรุป เกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ใต้ตา (Under-Eye Fillers)
ปัญหารอยคล้ำใต้ตา ถุงใต้ตา หรือร่องลึกใต้ตา อาจทำให้ใบหน้าของคุณดูเหนื่อยล้าและดูแก่กว่าวัย แต่โชคดีที่ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา โดยการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือบริเวณใด ๆ ก็ตาม ควรมีการดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือ
การฉีด Filler ใต้ตา นับเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง สำหรับการดูแลบริเวณใต้ตา ช่วยคืนความสดใส และเติมเต็มความหย่อนคล้อยใต้ตา ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เต่งตึง และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นองน้ำตาลึก รอยคล้ำใต้ตา และถุงใต้ตา จะได้กลับมามีความสดใส และเสริมความโดดเด่นบนใบหน้า
การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การฉีด Filler ใต้ตา มีสิ่งสำคัญคือ การทำหัตถการนี้ ต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยง หากทำโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง เช่น ส่งผลต่อการมองเห็น ที่ผิดปกติได้
ที่ THE KLINIQUE เราเลือกใช้เฉพาะ “Dermal Filler” ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในสหรัฐอเมริกาและมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญ จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถบอกลาปัญหาใต้ตาคล้ำได้อย่างปลอดภัย
สามารถรับคำปรึกษา เกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ ใต้ตา ได้แล้ว ที่ THE KLINIQUE
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique