

หยุด! ปัญหาฝ้ากวนใจ ด้วยวิธีรักษาฝ้าที่เห็นผลจริง
อะไรคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังปื้นสีน้ำตาลที่ปรากฏบนใบหน้าของเรา? ทำไมบางครั้งผิวหน้าที่เคยสดใส กลับถูกบดบังด้วยร่องรอยของ ฝ้า ปัญหาผิวที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน และที่สำคัญ ทำไมฝ้าถึงเกิดขึ้นกับบางคน แต่ไม่ใช่กับทุกคน? บทความนี้จะพาไปค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ ตั้งแต่สาเหตุ ปัจจัยภายในร่างกาย ไปจนถึงปัจจัยภายนอกที่หลีกเลี่ยงได้ยาก พร้อมวิธีการดูแลรักษาฝ้าและป้องกันฝ้าอย่างเหมาะสม
ฝ้าคืออะไร? ทำไมถึงเกิดฝ้า? และจะรักษาฝ้าอย่างไร?
ฝ้า หรือ Melasma คือ รอยดำหรือรอยคล้ำบนผิวหนัง มักมีลักษณะเป็นแผ่นสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม หรือสีเทาอมฟ้า ขอบเขตไม่ชัดเจน มักพบบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อยๆ เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก เหนือริมฝีปาก และสันจมูก บางครั้งอาจแอบซ่อนตัวอยู่บริเวณคางและขมับได้เช่นกัน


กลไกการสร้างเม็ดสีและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้า
ผิวหนังของเรามีเซลล์พิเศษที่เรียกว่า เมลาโนไซต์ ซึ่งมีหน้าที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน เม็ดสีนี้เองที่เป็นตัวกำหนดสีผิวของเรา เมื่อเมลาโนไซต์ทำงานผิดปกติ ผลิตเมลานินมากเกินไปในบางบริเวณ ก็จะเกิดเป็นปื้นสีน้ำตาลที่เราเรียกว่า ฝ้า นั่นเอง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัจจัยอะไรที่กระตุ้นให้เมลาโนไซต์ทำงานผิดปกติ? และเราจะรักษาฝ้าได้อย่างไร?
- แสงแดดและรังสี UV เป็นปัจจัยกระตุ้นหลักของการเกิดฝ้า รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ทั้ง UVA และ UVB รวมถึงแสงที่มองเห็นได้ในแสงแดด สามารถกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินให้ผลิตเม็ดสีมากขึ้น เมื่อผิวได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน หรือได้รับแสงแดดในปริมาณมากโดยไม่มีการป้องกัน ก็จะทำให้เกิดฝ้า หรือทำให้ฝ้าที่มีอยู่เข้มขึ้นได้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล ก็ส่งผลต่อการเกิดฝ้าได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิง
- ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการชัก หรือเครื่องสำอางบางชนิดที่มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อาจกระตุ้นการเกิดฝ้าได้
- สารเคมี การสัมผัสสารเคมีบางชนิดในที่ทำงานหรือในสิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีในอุตสาหกรรม หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ก็อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน
- เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ระคายเคืองผิว เช่น น้ำหอม สารแต่งสี หรือสารกันเสียบางชนิด อาจกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินและทำให้เกิดฝ้าได้
- ความเครียด: เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด จะมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี และทำให้เกิดฝ้าหรือทำให้ฝ้าที่มีอยู่เข้มขึ้นได้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ: การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนแอและไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่างๆ รวมถึงแสงแดดและฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดฝ้าได้
- พันธุกรรม โดยมีแนวโน้มว่าผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นฝ้า จะมีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าคนทั่วไป การ รักษาฝ้า ในกรณีนี้ อาจต้องใช้การดูแลเป็นพิเศษ และปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม


เช็คด่วน ฝ้าแบบไหนกำลังกวนใจคุณ?
ฝ้าสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ตามความลึกของเม็ดสีในชั้นผิวหนัง ซึ่งการแบ่งประเภทนี้มีความสำคัญต่อการรักษาฝ้าแต่ละชนิด


- ฝ้าตื้น จะอยู่แค่บริเวณผิวชั้นนอก หรือที่เรียกว่าชั้นหนังกำพร้า ทำให้เราเห็นเป็นปื้นสีน้ำตาล มีขอบชัดเจน มักจะมาจากการโดนแสงแดดโดยตรง นอกจากแสงแดดแล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้เกิดฝ้าตื้นได้เช่นกัน การรักษาฝ้าตื้นมักจะทำได้ง่ายกว่าฝ้าชนิดอื่น โดยอาจใช้แค่ครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง หรือการทำทรีทเมนต์บางชนิด เช่น การผลัดเซลล์ผิว
- ฝ้าลึก ฝ้าชนิดนี้จะอยู่ในชั้นผิวที่ลึกลงไปคือชั้นหนังแท้ ทำให้เห็นเป็นปื้นสีน้ำตาลเทา ขอบเขตไม่ชัดเจน ดูมัวๆ เหมือนเงาใต้ผิว ฝ้าลึกมักจะรักษายากกว่าฝ้าตื้น เพราะอยู่ในชั้นผิวที่ลึกกว่า การใช้แค่ครีมทาฝ้าอาจจะไม่เพียงพอ ต้องใช้วิธีรักษาฝ้าอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เลเซอร์ หรือการทำทรีทเมนต์เฉพาะ เช่น การใช้เลเซอร์เฉพาะจุดเพื่อทำลายเม็ดสี หรือการใช้ยาที่ออกฤทธิ์กับเม็ดสีโดยตรง
- ฝ้าผสม เป็นฝ้าที่พบได้บ่อยที่สุด คือมีทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึกผสมกัน ตรงกลางของฝ้าจะมีสีเข้ม ซึ่งเป็นส่วนของฝ้าลึก ส่วนขอบจะมีสีจางกว่า ซึ่งเป็นส่วนของฝ้าตื้น การรักษาฝ้าผสมจึงต้องใช้การรักษาแบบผสมผสาน เพื่อจัดการกับฝ้าทั้งสองชนิดร่วมกัน เช่น การใช้ครีมทาฝ้าควบคู่ไปกับการทำเลเซอร์ หรือการทำทรีทเมนต์อื่นๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วิธีดูแลผิวที่จะช่วยให้ฝ้าจางลงได้อย่างเห็นผล
การรักษาฝ้ามีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและชนิดของฝ้า รวมถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคล แต่การดูแลตัวเองเบื้องต้นเป็นปราการด่านแรกของการรักษาฝ้า เพราะก่อนจะไปถึงการรักษาฝ้าแบบอื่นๆ การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เริ่มจาก
- การดูแลตัวเองจากภายใน การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวจากภายใน ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาฝ้า
- มาส์กหน้าด้วยสูตรธรรมชาติ การใช้สูตรธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก มะนาว หรือว่านหางจระเข้ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนรอยดำ สามารถนำมาใช้ควบคู่กับการรักษาฝ้าได้ แต่ควรระวังในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนฝ้า การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนฝ้า เช่น ไนอาซินาไมด์, เรตินอล สามารถช่วยลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำได้ ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการรักษาฝ้า
การจัดการปัญหาฝ้าโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง


- ใช้ยาทาที่ช่วยลดเลือนฝ้า แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะอาจมีผลข้างเคียงได้ การรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับฝ้าในระยะเริ่มต้นหรือฝ้าที่ไม่หนามาก
- การทำทรีทเมนต์บำรุงผิว เช่น การผลัดเซลล์ผิว การทำไอออนโต หรือการฉีดเมโสหน้าใส เป็นอีกทางเลือกในการรักษาฝ้าที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส ลดเลือนฝ้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- เลเซอร์ฝ้า เป็นวิธีการรักษาฝ้าที่ได้ผลค่อนข้างรวดเร็วและเป็นที่นิยม โดยเลเซอร์ฝ้าจะเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติ ทำให้ฝ้าจางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกชนิดเลเซอร์ฝ้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาฝ้าของแต่ละบุคคล




สร้างเกราะป้องกัน ดูแลผิวให้ห่างไกลจากฝ้า
การป้องกันฝ้าตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าการรักษาฝ้า เพราะฝ้าที่เกิดขึ้นแล้ว มักใช้เวลานานในการรักษาฝ้าและอาจไม่หายขาด การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในระยะยาว
- แสงแดดคือตัวการสำคัญที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันฝ้าและรักษาฝ้า ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรังสี UVB และค่า PA++++ เพื่อป้องกันรังสี UVA ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิว ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ในวันที่ไม่มีแดด เพราะรังสี UV สามารถทะลุผ่านเมฆและกระจกได้
- แสงแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เป็นช่วงที่มีความเข้มข้นของรังสี UV สูงที่สุด ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วงเวลานี้ เมื่อจำเป็นต้องออกแดด ควรหาอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ร่ม หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดด เพื่อเพิ่มการปกป้องผิวจากแสงแดดอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีเสริมในการรักษาฝ้า
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับสภาพผิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เพราะอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดและเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาฝ้าและป้องกันการเกิดฝ้าซ้ำ
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการสร้างเม็ดสีผิว การพักผ่อนที่เพียงพอเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพผิวและช่วยสนับสนุนการรักษาฝ้าให้ดีขึ้น
โปรแกรมรักษาฝ้าที่ล้ำสมัยที่สุด Pico Clear Enlighten FX ผสานพลังกับ Advance Melasma เพื่อผลลัพธ์ที่เหนือกว่า


การรักษาฝ้าที่ THE KLINIQUE ได้นำโปรแกรมฉีดฝ้า Advance Melasma มาใช้ร่วมกับเลเซอร์ฝ้า Pico Clear Enlighten FX ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาฝ้าได้ดียิ่งขึ้น โดยการฉีดสารที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ร่วมไปกับการเลเซอร์ลดเลือนฝ้า ทำให้ฝ้าจางลงอย่างรวดเร็วและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ
PICO Clear Enlighten FX เลเซอร์ฝ้าลึกถึงต้นตอ
เลเซอร์ฝ้า ถือเป็นวิธีการรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลชัดเจน โดยเฉพาะเทคโนโลยี Pico Clear Enlighten FX ที่ THE KLINIQUE นำมาใช้ในการรักษาฝ้า ซึ่งเป็นเลเซอร์ฝ้าที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน
- พลังงานที่ปรับได้เฉพาะบุคคล หมดกังวลเรื่องการรักษาที่ไม่ตรงจุด เพราะ Pico Clear Enlighten FX สามารถปรับค่าพลังงานได้อย่างละเอียด เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาฝ้าของแต่ละบุคคล ทำให้การเลเซอร์ฝ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด
- สลายฝ้าลึกถึงต้นตอ พลังงานเลเซอร์ฝ้าจะตรงเข้าสลายเม็ดสีที่เป็นต้นเหตุของฝ้าอย่างแม่นยำ ทำให้ฝ้าดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด
- ความแม่นยำสูง Pico Clear Enlighten FX ซึ่งเป็นเลเซอร์ฝ้าที่สามารถส่งพลังงานเลเซอร์ไปยังเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้วยความเร็วระดับ Picosecond (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ทำให้เม็ดสีเมลานินแตกตัวเป็นอนุภาคเล็กละเอียด โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ ลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
- รักษาฝ้าได้ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นฝ้าตื้น ฝ้าลึก หรือฝ้าผสม Pico Clear Enlighten FX เลเซอร์ฝ้า ก็สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นอกจากการเลเซอร์ฝ้าแล้ว Pico Clear Enlighten FX ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระชับ และเรียบเนียนขึ้นได้อีกด้วย
Advance Melasma เสริมพลังการรักษาฝ้า
เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น THE KLINIQUE ได้พัฒนาโปรแกรม Advance Melasma ซึ่งเป็นการฉีดตัวยาเฉพาะที่ได้รับการรับรองจาก FDA เข้าสู่ใต้ชั้นผิว เพื่อจัดการกับปัญหาฝ้าอย่างตรงจุด โดยตัวยาจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาฝ้าให้ดียิ่งขึ้น นอกเหนือจากการเลเซอร์ฝ้าเพียงอย่างเดียว
- โปรแกรม Advance Melasma ใช้ตัวยาที่ได้รับการรับรองจาก FDA จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษาฝ้า
- ตัวยาจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดฝ้า ทำให้การ รักษาฝ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- นอกจากลดฝ้าแล้ว Advance Melasma ยังช่วยผลัดเซลล์ผิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลดีต่อการรักษาฝ้าในระยะยาว
- สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ดีขึ้นได้ภายใน 1 สัปดาห์ และผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้
- หมดกังวลเรื่องความเจ็บปวด เพราะตัวยาที่ใช้ไม่แสบ ไม่ต้องประคบหลังการรักษา
- ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณอย่างใกล้ชิดในการ รักษาฝ้าด้วยวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล




ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่สามารถรักษาได้ การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของฝ้าเป็นสิ่งสำคัญ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง ควบคู่ไปกับการดูแลและป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยนะคะ
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique