เทรนด์ฉีดปาก 2025 ฉีดฟิลเลอร์ปากทรงไหน? ให้ปากสวยฉ่ำเข้ากับหน้า

สาว ๆ ที่อยากเติมเต็มความสวย เพิ่มเสน่ห์ให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ รับปี 2025 บอกเลยว่าห้ามพลาด เทรนด์ฉีดปาก เพื่อปากสวยฉ่ำ แบบไอคอนสาว อย่างคุณดิว อริสรา ขาประจำคนสวย คนปัง ของ THE KLINIQUE ในบทความนี้ จะพาไปรู้จักกับการ “ฉีดฟิลเลอร์ปาก” ตามเทรนด์บิวตี้มาแรงแห่งปี 2025

ทรงฉีดปากที่มาแรงในปี 2025

  1. ปากทรงธรรมชาติ

ริมฝีปากที่ดูสมดุลและอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ได้ใจสาวไทยมาโดยตลอด การฉีดปากทรงธรรมชาติ จะเน้นการปรับทรงให้เข้ากับสัดส่วนของใบหน้า โดยใช้หลัก “Golden Ratio” เพราะสัดส่วนปากบนและล่างที่เหมาะสม จะช่วยให้ใบหน้าดูสวยอย่างลงตัว โดยทรงปากของคุณดิว อริสรา ก็คือทรงธรรมชาติ นี่เองค่ะ ปากสวย เหมือนพระเจ้าสร้าง คุณหมอที่นี่ปั้นให้ได้นะ บอกเลย

รีวิวฉีดปากที่ THE KLINIQUE จากคุณดิว อริสรา
“ดิวทำที่ THE KLINIQUE จบค่ะ ทำจริง และทำดีด้วย เพราะตัวฟิลเลอร์ของเค้าที่ใช้ เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน แถมยังอยู่ในมือแพทย์ที่เก่งมาก ๆ มากี่ทีก็ได้ทรงปากจึ้งสวย !! บอกเลยทุกวันนี้ขาดไม่ได้ค๊า ทรงปากที่ชอบ ไม่ใช่ทำที่ไหนก็ได้”
Cr. Instagram @duearisara
  1. ปากอวบอิ่มสายฝอ

ริมฝีปากฟูเต็มแบบสายฝอ ยังคงเป็นเทรนด์ยอดฮิต โดยเฉพาะคนที่ต้องการลุคเซ็กซี่และโดดเด่น ทรงนี้จะเน้นความอวบอิ่มของริมฝีปากล่างและมุมปากที่เจ่อนิด ๆ ให้ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูดค่ะ ดาราสาวหลายคน ก็ฉีดปากทรงสายฝอกัน ฮอตมากค่ะบอกเลย

  1. ปากกระจับสไตล์เกาหลี

ทรงปากที่ให้ลุคอ่อนหวาน น่ารักแบบสาวเกาหลีเกาใจ คือทรงปากกระจับที่ริมฝีปากบนมีความโค้งเว้าเล็กน้อย และริมฝีปากล่างดูอวบอิ่มเหมาะสม ถือเป็นอีกหนึ่งทรงยอดนิยมในปีนี้

  1. ปากกระจับปีกนก

ปากทรงกระจับปีกนกเป็นเทรนด์ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการลุคสวยคมชัด มีเอกลักษณ์ ทรงนี้ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูเซ็กซี่ ดูแกลม แต่งหน้าลุคไหนก็ปัง

การฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากสามารถแก้ไขปัญหาริมฝีปากได้หลากหลาย เช่น ริมฝีปากบาง ปากแห้งแตก หรือริมฝีปากที่ขาดสมดุล ยังช่วยปรับรูปทรงปากให้ดูมีมิติ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากสวยฉ่ำ ดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการเติมสาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ HA มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว การฉีดฟิลเลอร์จึงเหมาะสำหรับการปรับทรงริมฝีปากหรือแก้ปัญหาปากที่ดูหมองคล้ำ แห้งแตก หรือมีริ้วรอย โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด และไม่ต้องพักฟื้น

ฟิลเลอร์ปาก สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปาก หรือเพื่อแก้ไขปัญหาริมฝีปากไม่สมมาตร การฉีดปากช่วยเพิ่มเสน่ห์บนใบหน้าได้อย่างลงตัว และที่สำคัญ ช่วยเสริมบุคลิกและความมั่นใจ ให้คุณมีเสน่ห์ ในแบบที่ต้องการ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายหรือไม่ ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ถือว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรอง เนื่องจากฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid : HA) เป็นสารที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ 100%

 

อย่างไรก็ตาม การฉีดปากต้องอาศัยความแม่นยำ และระมัดระวัง เนื่องจากบริเวณริมฝีปากมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก หากฉีดไม่ถูกต้อง ก็อาจเสี่ยงต่อการอุดตันเส้นเลือดได้ โดยเฉพาะในผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดปากมาก่อน ซึ่งอาจมีพังผืด หรือรอยแผลที่ส่งผลต่อการกระจายตัวของฟิลเลอร์ ดังนั้น การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ ทั้งในด้านความปลอดภัย และการแก้ไขหากเกิดเหตุไม่คาดคิด

อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม

การฉีดฟิลเลอร์ปลอม ถือว่าเสี่ยงอันตรายอย่างมาก เพราะมักเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มี อย. รับรอง หรือนำเข้าผิดกฎหมาย อาจไม่ได้เป็นสาร Hyaluronic Acid (HA) ที่ปลอดภัยและสลายได้ตามธรรมชาติ แต่เป็นฟิลเลอร์กึ่งถาวรหรือสารอื่นที่อยู่ใต้ผิวหนังได้นานเกิน 5 ปี และอาจเกิดปัญหาหากฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ เช่น หมอกระเป๋าหรือคลินิกเถื่อน

ผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย จากฟิลเลอร์ปลอม

  • การติดเชื้อ : ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อรุนแรง
  • เนื้อตายและตาบอด : หากฉีดโดนเส้นเลือด อาจทำให้เนื้อตายหรือตาบอดได้
  • บวมผิดรูป : ฟิลเลอร์ปลอมอาจทำให้ใบหน้าผิดรูป หรือบวมเป็นก้อน
  • ไหลย้อย : ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเคลื่อนไปยังจุดอื่นของใบหน้า
  • พังผืดและเส้นประสาทเสียหาย : สารแปลกปลอมทำให้เกิดพังผืดหรือทำลายเส้นประสาท

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ กับคลินิกที่มีมาตรฐาน ได้รับการรับรอง ใช้ฟิลเลอร์แท้ และดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

การฉีดฟิลเลอร์ปาก vs การผ่าตัดปาก เลือกแบบไหนดี ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก และ การผ่าตัดปาก เป็นสองวิธีที่นิยมใช้ในการปรับรูปทรงริมฝีปาก โดยมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถปรับทรงได้หลากหลายตามความต้องการ ทั้งทรงสายฝอ ทรงธรรมชาติ หรือทรงกระจับ โดยเป็นวิธีที่เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น เพราะ การฉีดปาก สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และไม่มีการผ่าตัด จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบาย ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลตัวเอง

ในขณะที่ การผ่าตัดปาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากแบบถาวร เช่น การทำปากกระจับหรือปรับขนาดริมฝีปาก แม้ผลลัพธ์จะคงอยู่นานกว่า แต่การผ่าตัดต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นและดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด หลังผ่าตัดอาจเกิดบวมช้ำและต้องรอให้แผลหายดี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน

สรุป หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ในอนาคต การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากคุณต้องการผลลัพธ์ที่ถาวร และพร้อมสำหรับการพักฟื้น การผ่าตัดปากอาจตอบโจทย์มากกว่า

ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการ และสภาพร่างกายของคุณที่สุด โดยในเคสที่ผ่าตัดปากจนบางเกินไป การเติมฟิลเลอร์สามารถช่วยปรับรูปทรงให้ดีขึ้นได้ แต่ต้องพิจารณาจากปริมาณเนื้อริมฝีปาก และพังผืดที่เกิดจากการผ่าตัด หากพังผืดรั้งมาก ฟิลเลอร์อาจเติมได้น้อย หรือไม่ได้เลย ดังนั้น ควรศึกษาและตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนผ่าตัด เพราะบางกรณีที่เนื้อน้อยมาก อาจไม่สามารถแก้ไขได้อีกเลย

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร ?

  1. ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบางหรือไม่เท่ากัน
  2. ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มและความชุ่มชื้น
  3. ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบริเวณรอบริมฝีปาก
  4. ผู้ที่ต้องการปรับรูปปากให้สมดุลและดูอ่อนเยาว์

ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน และต้องใช้กี่ CC ?

ระยะเวลาการคงอยู่ของฟิลเลอร์ปาก จะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังการฉีด หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว เช่น การรับประทานอาหารร้อนจัด ก็จะช่วยยืดอายุการอยู่ของฟิลเลอร์ให้ยาวนานขึ้น

ส่วนปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับการฉีดปากนั้น โดยทั่วไปแล้ว 1 CC ก็เพียงพอที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน แต่หากต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ปากอวบอิ่ม หรือแก้ไขปากบาง อาจจำเป็นต้องใช้ 2 CC ขึ้นอยู่กับความต้องการ และลักษณะของปากแต่ละคน แพทย์จะประเมินและแนะนำปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและเข้ากับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ THE KLINIQUE

  1. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
  2. เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด ปรับทรงสวย แก้ปัญหาตรงจุด
  3. ใช้เวลาไม่นาน ปลอดภัยด้วยฟิลเลอร์คุณภาพสูง ทำหัตถการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
  4. ใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่พัฒนาเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะ

การเตรียมตัว ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. หาข้อมูลคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน
  2. ดูรีวิวแพทย์ที่มีประสบการณ์ ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
  3. ศึกษาวิธีดู ฟิลเลอร์แท้ ศึกษาเกี่ยวกับยี่ห้อที่คลินิกเลือกใช้
  4. หยุดใช้ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ
  5. งดวิตามินบางชนิดที่มีส่วนทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี, น้ำมันพริมโรส ฯลฯ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  6. งดดื่มแอลกอฮอล์ 1 – 3 วัน
  7. หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่กินเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทำหัตถการทุกครั้ง

 

การดูแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ไม่ควรจับ นวด ลูบ คลำ บริเวณที่ฉีด เพราะอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของยา
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  3. ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะใน 3 วันแรก ไปจนถึง 2 สัปดาห์หลังฉีด
  4. งดออกกำลังกายหนัก งดอบซาวน่า แช่น้ำอุ่น หรือนวดหน้าด้วยความร้อน 2 สัปดาห์
  5. ทำตามคำแนะนำอื่น ๆ ของแพทย์อย่างเคร่งครัด

หมายเหตุ : อาการข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีอาการบวม แดง หรือรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ดีขึ้น และเมื่อบวมลดลง จะเห็นรูปทรงปากที่ชัดเจนมากขึ้น

Q&A เพื่อนสาวถามมา THE KLINIQUE ตอบไป

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ?

A : ตอนฉีดจะมีความเจ็บบ้างนะ แต่ไม่ถึงขั้นทนไม่ได้ เพราะริมฝีปากเราค่อนข้างอ่อนและบาง ทำให้ไวต่อความรู้สึก แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เค้ามียาชาช่วยบรรเทาให้ก่อนฉีดแล้ว

Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันถึงเข้าที่ ?

A : หลังฉีดอาจจะมีอาการบวม ๆ หน่อย แต่ไม่นานนะคะ 4-5 วันก็บวมลดลงแล้ว ส่วนผลลัพธ์ที่เข้าที่จริง ๆ จะเห็นชัด ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ด้วยเทคนิคอาจารย์แพทย์ ที่ THE KLINIQUE

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และความละเอียดอ่อน เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลาย เช่น อายุ การดูแลสุขภาพ และโรคประจำตัวของแต่ละบุคคล ที่ THE KLINIQUE ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพสูงสุด โดยเลือกใช้ ฟิลเลอร์ “Dermal Filler” ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดใน USA ได้รับรองมาตรฐานจาก อย. ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา (US FDA) และ ประเทศไทย และมีผู้รับการรักษาแล้วทั่วโลก ช่วยให้คนไข้มีใบหน้าสดใส อ่อนเยาว์ มีมิติขึ้น แก้ไขทุกจุดบกพร่องบนใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติและสมบูรณ์แบบที่สุด

THE KLINIQUE ฉีดฟิลเลอร์ปากทุกเคส โดย ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนาน พร้อมใช้เทคนิคอาจารย์แพทย์ที่เน้นความประณีต และความเหมาะสมเฉพาะบุคคล ทีมแพทย์ของเราตั้งใจ “ปั้นปาก” ให้เข้ากับโครงหน้าและบุคลิกภาพของแต่ละคน เพื่อให้ได้ทรงปากที่สวยฉ่ำ ดูมีเสน่ห์ และเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ทำไมต้องเลือก THE KLINIQUE ?

ฟิลเลอร์มาตรฐานระดับสากล ได้รับกรรับรองจาก US FDA : เราเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากองค์กรชั้นนำระดับสากล ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อฉีดปากโดยเฉพาะ

เทคนิคเฉพาะตัว : เทคนิคอาจารย์แพทย์ ช่วยปรับทรงปากให้สวยสมบูรณ์แบบ และเข้ากับใบหน้า

ความปลอดภัยสูงสุด : การฉีดฟิลเลอร์ทุกเคส ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : ได้ทรงปากสวย ฉ่ำวาว มีมิติ และดูไม่หลอกตา

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรมีการประเมิน และ ทำหัตถการโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการ ที่ THE KLINIQUE เราเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อให้ฟิลเลอร์ปากที่ฉีด เข้ากับสัดส่วน องค์ประกอบโดยรวมของใบหน้า รับกับใบหน้าดูดี ดูสวย

เปลี่ยนริมฝีปากของคุณให้ดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์ และสวยสมบูรณ์แบบได้แล้ววันนี้ โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม โดยเฉพาะปากทรงธรรมชาติตามรอย “ดิว อริสรา”  ซึ่งเป็นเทรนด์ฮิตสุด ๆ สาว ๆ ค่อนประเทศยื่นเรฟนี้กันให้สนั่นเลย

ไม่ต้องสืบกันอีกต่อไป เพราะ  คุณดิว เปิดหมดเปลือก ว่าฉีดปากแบบตัวมัม ไว้ใจที่ THE KLINIQUE  เท่านั้น ใครอยากสวยปัง ก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) รับรองเลยว่า คุณหมอทุกท่านจะเนรมิตปากของลูกสาวเดอะคลีนิกค์ ให้สวยโดดเด่นเหมือนลูกรักพระเจ้า ดั่งริมฝีปากที่สวยงามของ “ดิว อริสรา” เลยค่ะ

เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา