ตีแตกฟิลเลอร์(Filler) แต่ละชนิด ทำความรู้จักฟิลเลอร์แต่ละประเภท…ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด

Filler หรือ สารเติมเต็ม คือ สารที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเติมเต็มและแก้ไขความบกพร่อง อันเป็นผลจากการลดลงของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งมีหลายยี่ห้อและแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป

ชนิดของ Filler

Filler แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ(ตารางที่ 1) ได้แก่

1. 1. กลุ่มที่ไม่สลายได้เอง(Non-biodegradable filler)
   2. กลุ่มที่สลายได้เอง(Biodegradable filler)

เปรียบเทียบ filler ชนิดต่าง ๆ

ในปัจจุบัน Filler ที่ผ่านสำนักงานกรรมการอาหารและยา(อย.) ประจำปี พ.ศ. 2565 ได้แก่ Juvederm, Restylane, Belotero, Revanesse, Neuramis, YVOIRE และ e.p.t.q. เป็นต้น

THE KLINIQUE มีฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ ผ่านการรับรองจากสำนักงานกรรมการอาหารและยา(อย.) โดยมีคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป เช่น ชนิด, ปริมาณสาร Hyaluronic acid, Cross-linker, Particle size, ความหนืด, ความยืดหยุ่น หรือ ระยะเวลาการออกฤทธิ์ (ดังแสดงในตารางที่2)

 

คุณสมบัติด้านความหนืดและความยืดหยุ่น

              Shear-stress หรือ ความเค้นเฉือน คือ อัตราส่วนของแรงเฉือน (shear force) ต่อ พื้นที่ในแนวขนานกับแรงเฉือนนั้น ซึ่งจะแสดงเป็นค่า G’ มีหน่วยเป็น Pascal ซึ่งความเค้นเฉือนมีผลต่อคุณสมบัติของ filler (ดังแสดงในตารางที่ 3)

เทคนิคการฉีด Filler

เทคนิคการฉีด filler โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีความเข้าใจเป็นอย่างดีในกายวิภาค(anatomy)เป็นสิ่งสำคัญมาก ตลอดจนการเลือกใช้ชนิดของเข็มให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน(ดังตารางที่ 4)

Filler ฉีดตรงไหนและต้องฉีดปริมาณเท่าไร?

Filler สามารถเติมเต็มได้ทั้งร่องรอยตื้นและร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง รอยย่นลำคอ บริเวณใต้ตา ขมับ หรือ มือ เป็นต้น ซึ่งปริมาณของ filler ที่ต้องใช้จะพิจารณาตามปัญหาสภาพผิวของคนไข้เป็นรายบุคคล (Personalization) โดยมีช่วงปริมาณที่เหมาะสม ดังนี้

Filler แต่ละบริเวณอยู่ได้นานเท่าไร?

              ระยะเวลาการสลายตัวของ filler ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้ ซึ่งแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 6-18 เดือนอีกทั้งมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาการออกฤทธิ์ ดังนี้

1. 1. ปริมาณและชนิดของ cross-linking ของ Hyaluronic acid
      : cross-linking มีผลอย่างมากต่อระยะเวลาการออกฤทธิ์ เพราะถ้าไม่มี cross-linking พบว่า HA จะถูกทำลายโดย enzyme hyaluronidase ในผิวหนังภายใน 1-2 วันหลังฉีด

• • ระดับความลึกและตำแหน่งที่ฉีด
    : การฉีดลึกถึงระดับกระดูกจะทำให้เกิดการกระตุ้น periosteal stem cell และ fibrous tissue ทำให้เกิดการสร้างโครงสร้างคล้าย capsule ล้อมรอบ filler ส่งผลให้ออกฤทธิ์นานมากขึ้น และ ตำแหน่งฉีดที่ต่างกันอาจจะมีระยะเวลาออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันเพราะแต่ละบริเวณก็มีความบ่อยของการขยับที่แตกต่างกัน

• • การ metabolize ยาโดยร่างกายของคนไข้