“ดื้อโบ” คืออะไร? ฉีดโบท็อกซ์แบบไหนถึงเสี่ยงดื้อโบ

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นหนึ่งในหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณสมบัติในการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าและฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตามหลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ ภาวะดื้อโบ (Botox Resistance) หรืออาจกำลังเผชิญกับปัญหานี้แบบไม่รู้ตัว โดยสังเกตได้จากผลลัพธ์ที่ลดลงหรือไม่เห็นผลเหมือนเดิมทำให้ไม่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป THE KLINIQUE ขอชวนทุกคนมาทำความเข้าใจ าวะดื้อโบ คืออะไร? เกิดจากสาเหตุไหน ภาวะดื้อโบอันตรายหรือไม่ พร้อมแนวทางป้องกันและวิธีแก้ไขอาการดื้อโบ เพื่อให้การดูแลผิวยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ดื้อโบ คืออะไร

ภาวะดื้อโบ (Botox Resistance) คือ ภาวะที่ร่างกายเริ่มไม่ตอบสนองต่อสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญในโบท็อกซ์ โดยร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ขึ้นมายับยั้งการทำงานของโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิว ส่งผลให้โบท็อกซ์ไม่ออกฤทธิ์ตามปกติ ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือเห็นความเปลี่ยนแปลงได้น้อยมากจนไม่คุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป

ลักษณะอาการดื้อโบเป็นอย่างไร

หากเริ่มมีอาการเหล่านี้หลังฉีดโบท็อกซ์ อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะดื้อโบท็อกซ์ และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม

  • ฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลเหมือนอย่างที่เคย เห็นผลเพียงเล็กน้อย หรือในบางรายอาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงเลย
  • ต้องใช้ปริมาณโบท็อกซ์มากขึ้นเพื่อทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการฉีดครั้งก่อนหน้า
  • ผลลัพธ์จากการฉีดอยู่ได้สั้นลง จากเดิมที่โบท็อกซ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน อาจลดเหลือเพียง 1-2 เดือน ทำให้ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อยขึ้น

การฉีดโบท็อกซ์ทำให้เกิดอาการดื้อโบได้จริงไหม? เกิดจากสาเหตุใด

การฉีดโบท็อกซ์สามารถทำให้เกิดภาวะดื้อโบท็อกซ์ได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ฉีดโบท็อกซ์อย่างไม่เหมาะสม หรือฉีดติดต่อกันบ่อยๆ โดยมีสาเหตุสำคัญที่อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะดื้อโบได้ ดังนี้

  • การฉีดโบท็อกซ์โดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้โบท็อกซ์กระจายตัวไม่ดี และทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • การฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป การฉีดถี่เกินไปโดยไม่มีการเว้นระยะที่เหมาะสม อาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโบท็อกซ์ได้
  • ปริมาณที่ฉีดมากเกินจำเป็น การฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่สูงเกินไปโดยไม่จำเป็น การฉีดสลับยี่ห้อไปมาหรือการฉีดโบท็อกซ์หลายยี่ห้อในบริเวณเดียวกัน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภูมิต้านทานต่อสารโบทูลินัม ท็อกซิน
  • ใช้โบท็อกซ์คุณภาพต่ำ โบท็อกซ์ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย อาจมีการปนเปื้อนของโปรตีนหรือสารอื่นๆ ที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อต้านสารโบทูลินัม ท็อกซิน

ดื้อโบ อันตรายหรือไม่

ภาวะดื้อโบ ดื้อโบท็อกซ์ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายโดยตรง แต่จะส่งผลให้ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น ริ้วรอยไม่ลดลง กล้ามเนื้อไม่เกิดการคลายตัว หรือรูปหน้าไม่เปลี่ยนแปลง และต้องเพิ่มปริมาณโบท็อกซ์มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ดีในระยะยาว อย่างไรก็ตามภาวะดื้อโบที่เกิดจากการใช้โบท็อกซ์คุณภาพต่ำ หรือโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ เช่น อาการแพ้ อักเสบ บวมแดง รวมถึงอาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือใบหน้าผิดรูปได้

ดื้อโบแก้ไขได้อย่างไร

  • เว้นระยะการฉีดโบท็อกซ์ชั่วคราว เป็นเวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้ร่างกายได้พักจากการได้รับสารโบทูลินัม ท็อกซิน และลดการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน
  • เปลี่ยนยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ เนื่องจากโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีโครงสร้างโปรตีนที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนไปใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อใหม่ๆ โดยเฉพาะโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง อาจช่วยลดภาวะดื้อโบท็อกซ์ และเพิ่มโอกาสการตอบสนองของกล้ามเนื้อในชั้นผิวได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังการเปลี่ยนยี่ห้ออาจไม่ใช่การแก้ไขปัญหาดื้อโบได้ 100%
  • ใช้หัตถการอื่นร่วมด้วย เช่น การฉีดฟิลเลอร์, Collagen Biostimulator, การทำ HIFU, Thermage FLX เพื่อช่วยลดปริมาณโบท็อกซ์ที่ต้องใช้ หรือเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อในขณะเว้นระยะฉีดโบท็อกซ์

วิธีป้องกันไม่ให้ดื้อโบ

เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะดื้อโบ ควรปฏิบัติตามแนวทางดังนี้

  • ใช้โบท็อกซ์ของแท้และผ่านมาตรฐาน อย. ไทย ตัวยาโบท็อกซ์ที่มีค่าความบริสุทธิ์สูง ปราศจากสารโปรตีนปนเปื้อน ช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะดื้อโบ
  • ฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อการวางแผนฉีดโบท็อกซ์อย่างเหมาะสม ทั้งการเลือกจุดฉีด ปริมาณและความถี่ที่ต้องฉีดโบท็อกซ์ และเทคนิคการฉีด เพื่อช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพและลดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกซ์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้อย่างยาวนาน ลดความถี่ในการฉีดซ้ำ และช่วยป้องกันการเกิดภาวะดื้อโบท็อกซ์

สรุป

ภาวะดื้อโบเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินไป หรือใช้โบท็อกซ์ที่ไม่มีคุณภาพ แม้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพแต่ก็ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลความเปลี่ยนแปลงจนต้องปรับแผนการรักษาในระยะยาว เพื่อป้องกันภาวะดื้อโบ ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ใช้โบท็อกซ์ของแท้ และเว้นระยะการฉีดอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่า ปรึกษาปัญหาดื้อโบ หรือจองคิวเข้ารับบริการ THE KLINIQUE ทุก

เพราะความมั่นใจของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา