วิธีหน้าเด็กเทรนด์ฮิต 2025 ด้วย Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน

Biostimulator หรือ Collagen Biostimulator เทรนด์ดูแลผิวยอดฮิตประจำปี 2025 ที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องพูดถึง เพราะการมีผิวสวยสุขภาพดี หน้าดูเด็กไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการดูแลผิวจากภายนอกที่สร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้แบบชั่วคราว แต่ต้องเป็นการฟื้นฟูสุขภาพผิวได้อย่างล้ำลึกจากภายใน ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ๆ ใต้ชั้นผิวซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผิวยกกระชับ เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ Biostimulator คืออะไร? มีความสำคัญต่อการดูแลผิวมากแค่ไหน? Biostimulator เหมาะกับใครบ้าง บทความนี้ของ THE KLINIQUE มีคำตอบ

Biostimulator คืออะไร?

Biostimulator หรือ Collagen Biostimulator คือ สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ใช้ฉีดเข้าใต้ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ตามกระบวนการธรรมชาติ เพื่อช่วยปรับปรุงและฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง หน้าดูเด็กลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถคงผลลัพธ์ดูแลผิวได้ยาวนานตั้งแต่ 2-3 ปี

Biostimulator มีกี่ประเภท

ในปัจจุบัน biostimulator หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่นิยมใช้ในวงการความงามมีอยู่หลายประเภท โดยสามารถจำแนกออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ตามสารประกอบสำคัญ ได้แก่

  1. PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจนใหม่ได้ในระยะยาว ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น Sculptra
  2. CaHA (Calcium Hydroxylapatite) เป็นสารประกอบแร่ธาตุในกลุ่มเดียวกับที่พบได้ในกระดูกและฟันของมนุษย์ มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มผิวได้อย่างรวดเร็วและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น Radiesse
  3. PDO (Polydioxanone) เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่ใช้ในไหมละลายทางการแพทย์ มีคุณสมบัติช่วยพยุงผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น ไหมละลาย PDO
  4. PCL (Polycaprolactone) เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวแน่นขึ้นและดูเด็กลง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น Gouri
  5. PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่ได้จากกรดแลคติก สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส แลช่วยลดริ้วรอยได้ดี ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เช่น Juvelook, AestheFill

หลักการทำงานของ Biostimulator

หลังจากที่ฉีดสาร Biostimulator เข้าใต้ชั้นผิว สารเหล่านี้จะตรงเข้ากระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblast) ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อความยืดหยุ่นและความยกกระชับของผิว หลังจากนั้นสาร Biostimulator จะค่อยๆ สลายตัวและถูกกำจัดออกจากร่างกาย คงเหลือไว้แค่เพียงคอลลาเจนและอีลาสตินที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่ ผิวกลับมาแข็งแรง ยืดหยุ่น ทำให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ เริ่มเห็นผลความเปลี่ยนแปลงภายใน 2-3 สัปดาห์ และชัดเจนเต็มที่เมื่อครบ 3 เดือน โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ทำไม Collagen Biostimulator จึงจำเป็นสำหรับการดูแลผิว

ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้เองอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้นประกอบกับปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ ส่งผลให้การผลิตโปรตีนสำคัญใต้ชั้นผิวมีแนวโน้มที่จะลดลงเรื่อยๆ เป็นประจำทุกปี เป็นสาเหตุให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยร่องลึก หน้าดูแก่กว่าวัย Biostimulator หรือ Collagen Biostimulator จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลผิวด้วยการออกฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการมีผิวเด็ก เต่งตึง ใบหน้าดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ โดยคุณประโยชน์ของ Biostimulator มีหลายประการ ได้แก่

  • ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ผิวเรียบเนียน หน้าดูเด็กลงอย่างชัดเจน
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ดูอิ่มฟู ไม่แห้งกร้าน
  • ปรับสีผิวให้เรียบเนียนกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ

Biostimulator เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยร่องลึกและต้องการปรับผิวให้กระชับมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีเป็นต้นไป ที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง
  • ผู้ที่มีผิวแห้งกร้านและรูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่มีผิวหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหน้าตอบหรือขาดวอลลุ่มได้ในระยะยาว ให้ผลลัพธ์ยาวนานมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์
  • ผู้ที่สนใจเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ๆ ใต้ชั้นผิว เพื่อให้ผิวสุขภาพดีอยู่เสมอ

Collagen Biostimulator ต่างกับฟิลเลอร์อย่างไร?

Collagen Biostimulator และ ฟิลเลอร์ เป็นสองหัตถการที่ช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวได้เหมือนๆ กัน แต่มีหลักการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Collagen Biostimulator จะทำหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์ใต้ชั้นผิวสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ๆ ตามกระบวนการธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ผิวหน้าดูเด็กลงแบบค่อยเป็นค่อยไป เห็นผลลัพธ์ในช่วง 3-6 เดือนหลังฉีด และอยู่ได้นาน 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของสารที่ใช้

ในขณะที่ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นสารเติมเต็มผิวที่สังเคราะห์เลียนแบบสารในร่างกาย มีคุณสมบัติในการเติมเต็มช่องว่างและเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวได้ทันที จึงเหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก และการปรับรูปหน้าแบบเร่งด่วน คงผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ 6-18 เดือน ดังนั้นหากต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวในระยะยาว Biostimulator จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจน รวดเร็ว ฟิลเลอร์จึงตอบโจทย์กว่า

Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน เทรนด์ปรับผิวหน้าเด็กมาแรงปี 2025 ดูแลผิวให้สวยเป๊ะ แบบไม่ตกเทรนด์ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือจองคิวเข้ารับบริการได้แล้ววันที่ THE KLINIQUE

เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ

สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!

Line OA: http://bit.ly/TheKlinique

Facebook: https://www.facebook.com/TheKliniqueMedicalClinic

THE KLINIQUE

THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) ผู้นำอันดับ 1 นวัตกรรมยกกระชับปรับรูปหน้าและลดริ้วรอย ระดับเอเชียแปซิฟิค ตอบโจทย์ทุกศาสตร์ความงามให้กับ ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย เพื่อความงามอย่างเป็นธรรมชาติในแบบฉบับของตัวเอง เน้นประสิทธิภาพการรักษาจากการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และนวัตกรรมทางการแพทย์มาตรฐานสหรัฐอเมริกา USFDA และยุโรป ทั้งนี้ด้านการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่าง ปัจจุบัน THE KLINIQUE มีเทคโนโลยีท่ีดีที่สุด และได้รับมอบรางวัลผ้นำอันดับ 1 ทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติทําให้เดอะคลีนิกค์ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา