

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น แสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ กลายเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่าแสงสีฟ้าเหล่านี้เป็นภัยร้ายที่สามารถทำร้ายผิวของเราได้มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิด “ฝ้า”
ฝ้า ปัญหาผิวที่กวนใจใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย มักจะมาพร้อมกับความกังวลใจและทำให้ขาดความมั่นใจ ซึ่งสาเหตุของการเกิดฝ้านั้นมีมากมาย หนึ่งในสาเหตุที่คาดไม่ถึงและใกล้ตัวเรามากๆ ก็คือ แสงสีฟ้า
แสงสีฟ้า ภัยร้ายต่อผิวที่มองไม่เห็น
แสงสีฟ้า (Blue Light) เป็นแสงที่มองเห็นได้ในช่วงความยาวคลื่น 400-450 นาโนเมตร ซึ่งเป็นช่วงความยาวคลื่นที่สั้นที่สุดและมีพลังงานสูงที่สุดในบรรดาแสงที่มองเห็นได้ แสงสีฟ้าสามารถทะลุผ่านผิวหนังชั้นนอก (Epidermis) เข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนังในชั้นลึก (Dermis) ทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิว (Melanin) มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย


ฝ้าจากแสงสีฟ้า แตกต่างจากฝ้าชนิดอื่นอย่างไร
ฝ้าที่เกิดจากแสงสีฟ้ามักจะมีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนๆ กระจายตัวอยู่บริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก และคาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงสีฟ้าโดยตรง ฝ้าจากแสงสีฟ้ามักจะมีความตื้นกว่าฝ้าที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น แสงแดด หรือฮอร์โมน แต่ก็สามารถรักษาให้หายได้ยากเช่นกัน
ใครบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดฝ้าจากแสงสีฟ้า
ทุกคนที่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มีความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้าจากแสงสีฟ้า แต่กลุ่มคนที่เสี่ยงมากที่สุด ได้แก่
คนที่ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอนานๆ: ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการเล่นเกม
คนที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด: แม้จะอยู่ในร่มก็ควรทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันแสงสีฟ้า
คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย: ผิวประเภทนี้มักจะมีความไวต่อแสงสีฟ้ามากกว่าผิวประเภทอื่นๆ


วิธีป้องกันฝ้าจากแสงสีฟ้า
ลดเวลาการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: พักสายตาเป็นระยะๆ และลดการใช้หน้าจอในช่วงเวลาที่ไม่จำเป็น
ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูง: เลือกใช้ครีมกันแดดที่มี Broad Spectrum ที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB รวมถึงแสงสีฟ้า
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ: สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของแสงสีฟ้า
พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า
รักษาฝ้าจากแสงสีฟ้าด้วยโปรแกรม KLINIQUE Melasma
KLINIQUE Melasma เป็นโปรแกรมการรักษาฝ้าที่คิดค้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของTHE KLINIQUE ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการรักษาฝ้าให้จางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
โปรแกรม KLINIQUE Melasma มีจุดเด่นคือ
การรักษาที่ต้นเหตุ: โปรแกรมนี้จะมุ่งเน้นไปที่การลดการสร้างเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า
ความปลอดภัย: โปรแกรมนี้ได้รับการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์ที่ชัดเจน: ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยโปรแกรมนี้จะสังเกตเห็นได้ว่าฝ้าจางลงอย่างชัดเจนภายในเวลาอันรวดเร็ว


เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique