ฝ้าเลือด เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวหนังที่อาจใช้เวลาในการรักษานาน หากใช้วิธีดูแลรักษาที่ผิดวิธีมาตลอด แต่ถ้ารู้ทันต้นตอที่ทำให้เกิดฝ้าเลือด พร้อมกับรักษาด้วยวิธีใหม่ที่ตรงจุดมากขึ้นแล้ว ก็สามารถรักษาฝ้าเลือดให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ ด้วย 4 วิธีรักษาฝ้าเลือดให้จางลงอย่างตรงจุด แถมผิวหน้าไม่สู่ขิตอีกด้วย
ทำความรู้จักกับ “ฝ้าเลือด”
ฝ้าเลือด คือ ฝ้าชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้ามีรอยเส้นเลือดฝอยในลักษณะแตกแขนง หรือกระจุกตัวเกิดขึ้น อาจเป็นเส้นเลือดสีชมพู สีแดง สีน้ำตาล หรือมีสีคล้ำก็ได้ การเกิดฝ้าเลือดบนใบหน้าจะชัดขึ้นเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้นรูปแบบต่าง ๆ ทั้งปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
ฝ้าเลือด มีต้นตอมาจากสาเหตุใดบ้าง ?
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหน้าบาง ซึ่งมีส่วนผสมของไฮโดรควินิน สเตอรอยด์ และปรอท อาจทำให้ผิวหน้ามีสีจางและบางลง ส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวจนเป็นรอยชัดบนใบหน้า
- แสงแดด นอกจากจะเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังผลิตเม็ดสีมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าบริเวณที่มักจะโดนแดดเป็นประจำเสื่อมสภาพจนชั้นผิวบางลง อาจทำให้เกิดฝ้าเลือดได้ง่ายขึ้น
- การทายารักษาโรคผิวหนังบางชนิด การทำหัตถการรูปแบบต่าง ๆ และการเลเซอร์ อาจก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้เกิดการกระตุ้นให้เกิดฝ้าเลือดได้
- การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยากันชัก (Phenytoin) หรือกลุ่มยาที่มีความไวต่อแสง มีผลทำให้เกิดฝ้าเลือดชัดขึ้น
หลังจากที่ทุกคนได้รู้สาเหตุของการเกิดฝ้าเลือดแล้ว ต่อไปจะเป็นวิธีรักษาฝ้าเลือดบนใบหน้าให้จางลง เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลผิวหน้าให้กลับมาดีขึ้นและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกรอบ
วิธีรักษาฝ้าเลือดให้ผิวหน้าดีขึ้น
- หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าเลือด และเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผิวหน้า เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดเป็นเวลานาน เพื่อลดโอกาสในการเป็นฝ้าเลือด แต่ถ้าจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง แนะนำให้ทาครีมกันแดด พร้อมกับสวมหมวกและแว่นตา เพื่อป้องกันแสงแดด
- การใช้ยารักษาฝ้าเลือด
- ยาทาภายนอก เช่น กรดวิตามินเอ กรดอาซิเลอิก กรดโคจิด กรดไกลคอลิก เป็นต้น แนะนำให้ใช้ร่วมกัน เนื่องจากยาแต่ละชนิดมีกลไกในการรักษาที่แตกต่างกัน
- ยารับประทาน เช่น กรดทรานเอ็กซามิก
- การเลเซอร์เฉพาะจุด จะเป็นการยิงแสงเลเซอร์ตรงฝ้าเลือด เพื่อลดจำนวนเส้นเลือดฝอยที่ปรากฏตามใบหน้า
การรักษาฝ้าเลือดให้จางลงอย่างตรงจุดด้วย VBeam® Perfecta
VBeam® Perfecta ทำงานด้วยหลักการของ Micro Pulse Technology ในการให้คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 595 nm ที่มีความเข้มข้นของลำแสงเลเซอร์สูงและเป็นคลื่นสั้น จึงทำให้ VBeam® Perfecta สามารถให้พลังงานลงลึกไปในชั้นผิวตรงบริเวณที่ต้องการการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถกำจัดรอยแดง รอยเส้นเลือดได้โดยที่ไม่ทำลายผิวด้านบนและช่วยลดเวลาพักฟื้นผิวหลังการรักษา
ระหว่างการรักษา พลังงานเลเซอร์จะถูกดูดซับโดยอ๊อกซี่ฮีโมโกลบิน (Oxyhemoglobin) ซึ่งเป็นเม็ดสี สีแดงที่พบในรอยแดง รอยเส้นเลือดที่มีความเสียหายหรือมีการขยายขนาดขึ้น หรือถูกดูดซับโดยเมลานิน (Melanin) ที่พบในจุดด่างดำ โดยขึ้นกับสภาพของผิวที่ได้รับการรักษา หลังจากนั้นเส้นเลือดและเม็ดสีดังกล่าวก็จะถูกทำลาย และย่อยสลายไปในระหว่างกระบวนการหายของแผลโดยธรรมชาติของร่างกาย (body’s natural healing processes) จึงสามารถจัดการปัญหาผ้เลือด รักษาฝ้าเลือดได้ นอกจากนี้ VBeam® Perfecta ยังสามารถกำจัดเม็ดสีที่สะสมอยู่ในรอยกระ (Age spots)ได้อย่างชัดเจนเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าต้นตอที่ทำให้เกิดฝ้าเลือด ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอันตราย รวมทั้งการใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องออกแดดเป็นพิเศษ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครที่กำลังหาวิธีรักษาฝ้าเลือดที่ตรงจุด มีประสิทธิภาพ และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าวิธีอื่น ๆ ที่ผ่านมาได้นะคะ
ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาฝ้า THE KLINIQUE พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลรักษาฝ้าเลือดให้ดีขึ้นได้ด้วยความเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique