โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ไม่ใช่โรคติดต่อ มีลักษณะเป็นผื่นแดง ตุ่มนูนแดง ตุ่มหนองและร่างแหของเส้นเลือดเล็กๆ(telangiectasia) พบมากบริเวณแก้ม จมูก คาง หน้าผาก หรือตาได้ด้วย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัยโดยเฉพาะช่วงอายุ 30-50 ปี พบมากในเพศหญิง ผิวขาว มีภาวะอ้วน สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา มีประวัติครอบครัวเป็นโรคผิวหนังโรซาเชียมาก่อน โดยมีอุบัติการณ์ของการเกิดโรคโรซาเชียอยู่ที่ประมาณ 5.5%
โรซาเชียอาจเป็นสาเหตุให้คนไข้สูญเสียความมั่นใจหรือเป็นโรควิตกกังวลได้ จากงานวิจัยในปัจจุบันพบว่าโรซาเชียมีความสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคทางเดินอาหาร โรคทางระบบประสาท โรคจิตเวชหรือโรคภูมิคุ้มกันด้วย อีกทั้งเป็นโรคที่หายแล้วสามารถกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้
อาการของโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย
- เส้นเลือดที่จมูกและแก้มมักขยายตัวจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน(superficial blood vessels)
- เกิดรอยแดงที่ใบหน้า โดยมักทำให้เกิดรอยแดงอย่างถาวรบริเวณกลางใบหน้า
- มีตุ่มแดงบวมคล้ายสิวหรือมีหนอง
- รู้สึกแสบ ร้อน กดเจ็บหรือชาที่ผิวหนัง
- ผิวแห้ง ผิวหยาบกร้านขรุขระ และรูขุมขนกว้าง
- มีความผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาบวมแดงและระคายเคือง เปลือกตาแดง ตาแห้งเป็นต้น โดยผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่ตาก่อนจะเกิดอาการทางผิวหนัง ซึ่งอาจกระทบต่อการมองเห็นด้วย
- จมูกอาจขยายใหญ่ขึ้นและผิวหนังบนจมูกอาจหนาขึ้น (rhinophyma) แต่ก็พบได้ค่อนข้างน้อย และเกิดขึ้นกับเพศชายมากกว่าเพศหญิง
การวินิจฉัยโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย
- มีอาการข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- อาการหน้าแดงบริเวณจมูก แก้ม คาง และหน้าผาก โดยอาจพบอาการกำเริบเป็นระยะ
- ผิวหนังปลายจมูกมีลักษณะนูนหนาและขรุขระหรือ
- มีอาการดังต่อไปนี้มากกว่าหรือเท่ากับ 2 ข้อ
- ตุ่มนูนและตุ่มหนอง
- อาการหน้าแดงซ่าน
- ลักษณะร่างแหของหลอดเลือดฝอย
- อาการทางตา เช่น พบร่างแหของหลอดเลือดฝอยบริเวณเปลือกตา เยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ เป็นต้น
เนื่องจากผื่นโรซาเชียมีลักษณะคล้ายคลึงกับผื่นชนิดอื่นๆ เช่น สิว ผื่นจากโรคพุ่มพวง เป็นต้น จึงควรได้รับการวินิจฉัยแยกโรคโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชียมี 4 ชนิด
- Vascular Rosacea คือมีอาการหน้าแดงตลอดเวลา ร่วมกับพบลักษณะร่างแหของหลอดเลือดฝอยบริเวณใบหน้า(visible blood vessels) อาจพบหน้าบวมร่วมด้วยได้
- Inflammatory Rosacea มีอาการหน้าแดงตลอดเวลา ร่วมกับมีตุ่มนูนหรือตุ่มหนอง(papules and pustules) อาจทำให้แยกยากจากสิว
- Phymatous Rosacea มีอาการผิวหนังหนาตัวขึ้น(thickened skin) และขรุขระ(bumpy texture) พบได้บ่อยบริเวณจมูก ทำให้จมูกขยายใหญ่ขึ้น มักพบในผู้ชาย
- Ocular Rosacea จะมีอาการทางตาโดยพบลักษณะร่างแหของหลอดเลือดฝอยบริเวณเปลือกตา ตาสู้แสงไม่ได้ เยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ อาจเกิดเปลือกตาอักเสบได้
สาเหตุของผื่นโรซาเชีย
ถึงแม้ในปัจจุบันจะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังนี้
- พันธุกรรม
- การติดเชื้อไรที่เรียกว่า “Demodex Folliculorum” ซึ่งโดยปกติจะไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่หากมีปริมาณมากก็อาจทำให้ระคายเคืองผิวและเกิดผื่นโรซาเชียได้
- การสัมผัสลม แสงแดด หรืออยู่ในอุณหภูมิแบบสุดขั้ว
- การใช้เครื่องสำอางบางชนิด
- การติดเชื้อแบคทีเรีย Pylori
- การดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนหรือแอลกอฮอล์
- การรับประทานอาหารรสเผ็ด
ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดผื่นโรซาเชีย(Triggers)
- อาหารรสจัด (spicy foods)
- การดื่มแอลกอฮอล์ (alcohol)
- อากาศร้อนหรือเย็น (hot or cold temperatures)
- แสงแดด (sunlight)
- ภาวะเครียด(being stressed)
- ยาบางชนิดเช่น ยาลดไขมัน ยาขยายหลอดเลือด(medications)
แนวทางการรักษา
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นทั้งหมดที่เป็นไปได้ เช่น อาหารรสจัด ความร้อน
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผิว (skin care) ที่อ่อนโยนต่อผิว
- การใช้ยา
- รักษาผื่นแดง
- ยาทา: Brimonidine และ Oxymetazoline
- รักษาตุ่มนูนแดงหรือตุ่มหนอง
- ยาทา: Ivermectin, Metronidazole, Azelaic acid
- ยากิน: Doxycycline
- กรณีที่มีอาการรุนแรงมากและผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น
- Isotretinoin (ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เด็กพิการแต่กำเนิดได้)
- การรักษาด้วยเลเซอร์VBeam เพื่อลดกำจัดร่างแหของเส้นเลือดเล็กๆ(telangiectasia)
- การทำ Light-based therapies แบบเฉพาะเจาะจงเพื่อรักษาผิวบริเวณที่มีอาการ
- การใช้เครื่องจี้ไฟฟ้าเพื่อรักษาจมูกบวมหรือ Rhinophyma และรักษาเส้นเลือดที่ขึ้นจนเห็นได้ชัด
- การกรอผิว(Dermabrasion) เป็นเทคนิคการขัดผิวที่ใช้เครื่องมือหมุนเพื่อขจัดผิวหนังชั้นนอก
- พบจักษุแพทย์ หากผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนทางตาร่วมด้วย
- รักษาผื่นแดง
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรซาเซีย
- จมูกผิดรูป
- ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
- กระจกตาอักเสบ
การป้องกันโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่เป็นสาเหตุของโรซาเชีย เช่น แสงแดด อากาศเย็น สุรา บุหรี่ อาหารรสจัด หรือความเครียด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าหรือการขัดหน้าที่มากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเวลากลางวัน หรือใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกหรือร่ม และใช้ครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสียูวี (SPF) 30 ขึ้นไป
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวอยู่เสมอ(sensitive skin)
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์หรือสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง
- ใช้เครื่องสำอางชนิดที่ล้างออกง่ายและหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา
- หากเปลือกตาอักเสบจากโรคโรซาเชีย ให้ดูแลและบรรเทาอาการด้วยการทำความสะอาดเปลือกตาด้วยน้ำอุ่น
เพราะความสวยของคุณคือความสุขของเรา ให้ THE KLINIQUE ดูแลคุณ
สอบถามโปรโมชั่นหรือปรึกษาปัญหาผิวและรูปร่างฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!
Line OA: http://bit.ly/TheKlinique